ข้อมูลทั่วไปบุคลากร - ข้อมูลงานวิจัย

เมนูหลัก

	หน้าหลัก
	ข้อมูลการประกันคุณภาพ
	ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร
	ข้อมูลเกี่ยวกับนักศึกษา
	ข้อมูลการพัฒนาบุคลากร
	ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาการ
	ข้อมูลครุภัณฑ์หน่วยงาน
	ข้อมูลอาคารและสิ่งก่อสร้าง
	ข้อมูลผลงานประเภทต่างๆ
	ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน
	ปฏิทินการแจ้งซ่อมครุภัณฑ์
	ปฏิทินการขอใช้รถยนต์ราชการ
	ปฏิทินการขอใช้ห้องประชุม
	แผนภูมิแสดงข้อมูลงานวิจัย
	แผนภูมิแสดงข้อมูลครุภัณฑ์
	แผนภูมิแสดงแผนปฎิบัติการ
	ดาว์โหลดเอกสารประเภทต่างๆ
	สายตรงผู้อำนวยการ

	เข้าระบบ

	จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม

หน้าหลัก » รายละเอียด

‹ ย้อนกลับ

หน่วยงาน : วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี

ประเภทผลงาน : โครงการวิจัย

ชื่อผลงาน: พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของอาจารย์พยาบาล บุคลากร และนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี

เป็นผลงานที่อยู่ในแผนส่งเสริมการนำเสนอผลงานวิชาการของวิทยาลัย

ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากวิทยาลัยและ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ในการไปนำเสนอผลงานวิชาการ

ชื่อผู้ทำวิจัย		สถานะการทำวิจัย	สัดส่วน
		หัวหน้าวิจัย
	นางเพ็ญพักตร์ ลูกอินทร์	ผู้ร่วมวิจัย

กลุ่มสาขาวิชาการ

การพยาบาล

ความสำคัญและที่มาของปัญหา :

ความสำคัญของปัญหา

ปัจจุบันพบว่าคนในสังคม ทุกประเทศ มีการตื่นตัวในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง และบุคคลใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสถาบัน และองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นผลจากการตระหนักรู้ถึงโรคภัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพหากไม่ดูแลตนเองในด้านการดำเนินชีวิตตั้งแต่อยู่ในวัยที่ยังมีภาวะสุขภาพที่ดี มีแรงในการจัดกระทำสิ่งต่างๆให้กับตนเอง รายงานจากสำนักนโยบายและแผนสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสุขระบุไว้ว่ารายงานอุบัติการณ์ปัญหาสุขภาพและสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย� ในปี พ.ศ.2541 ของสำนักนโยบายและแผนสาธารณสุขกระทรงสาธารณสุข เมื่อปี �พ.ศ.2545 ¹ระบุว่าจำนวนและอัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คน จำแนกตามสาเหตุที่สำคัญ ��5 �อันดับแรก คือโรคมะเร็ง อุบัติเหตุ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดในสมอง ��ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้หากเพียงมีการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการบริโภคอาหารที่ถูกสัดส่วนทางด้านโภชนาการและการเคลื่อนไหวออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ �ส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของภาวะสุขภาพและความสมบูรณ์ทางรางกายในทางที่ดีขึ้น ²

�� สถาบันการศึกษาด้านสุขภาพเป็นหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบหลักในการผลิตบุคลากรพยาบาลวิชาชีพ โดยปกติทั่วไปการเรียนการสอนทางการพยาบาลที่เป็นการเรียนเฉพาะทางวิชาชีพ เป็นการเรียนที่ค่อนข้างหนักไม่ว่าจะเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นักศึกษาพยาบาลจะใช้เวลาว่างส่วนมากในด้านการศึกษาเล่าเรียน จึงมีเวลาในการพักผ่อนและมีกิจกรรมการออกกำลังกายน้อย ซึ่งจะไม่ค่อยมีเวลาว่างในการทำกิจกรรมและการออกกำลังกาย ³

�� พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรและนักศึกษาพยาบาลส่งผลกระทบต่อสุขภาพของบุคลากรและนักศึกษาพยาบาลเอง และส่งผลกระทบต่อการเป็นแบบอย่างที่ดีด้านสุขภาพของประชาชน พยาบาลเป็นวิชาชีพที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อการปรับเปลี่ยนหรือมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพเนื่องจากพยาบาลมีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริม และป้องกันปัญหาสุขภาพมาเป็นเวลานาน รวมทั้งทำบทบาททั้ง 2 ด้าน �ได้อย่างอิสระ เพื่อให้ประชาชนในสังคมมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถดำเนินชีวิตและทำหน้าที่ได้อย่างมีคุณภาพ โดยทำงานควบคู่ไปกับบทบาทด้านอื่น ๆ คือ การดูแลรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสภาพ ซึ่งมักเป็นการปฏิบัติงานที่ต้องทำร่วมกับบุคลากรทางสุขภาพด้านอื่น ๆ �� พยาบาลจึงต้องมีสุขภาพที่ดีมีภูมิต้านทานในร่างกายที่ดี� เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคได้ง่ายมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจในการให้บริการด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตามการมีความรู้ในเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพแต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง�� รวมถึงกระแสสังคมในยุคโลกาภิวัตน์กับความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคมไทยไปในทางวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป� �ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในด้านการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของอาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรี ด้วยมุ่งหวังว่าจะทำให้เข้าใจพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและ� เป็นแนวทางในการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพในด้าน เหล่านี้ได้

�� การสร้างเสริมสุขภาพ เพนเดอร์ ^�⁴ ให้ความหมายว่าเป็นแรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการที่จะมีภาวะผาสุก (well being) และศักยภาพของบุคคลที่จะสามารถสร้างเสริมภาวะสุขภาพได้ตามความเป็นจริง ��และเสนอรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพ 6 ด้านได้แก่� การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้อุปสรรคต่อการกระทำ การรับรู้ความสามารถของตนเอง กิจกรรมและอารมณ์ความรู้สึกที่เกี่ยวข้อง ��การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง และสภาวะแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง สำหรับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพนั้นกลยุทธ์ในการสร้างเสริมสุขภาพให้ประสบความสำเร็จจากการประชุมที่จัดโดยองค์การอนามัยโลกที่กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา ⁵ มีการกำหนดกฎบัตรออตตาวา เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ �5 ประการ�� ได้แก่ �การสร้างนโยบายสาธารณะที่จะส่งเสริมสุขภาพ� �การสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ �การสร้างเสริมกิจกรรมของชุมชนให้เข้มแข็ง� การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล� การปรับเปลี่ยน บทบาทของระบบบริการสาธารณสุข �

�� จากแนวคิดดังกล่าว วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี ตระหนักถึงความสำคัญในการผลิตบุคลากรพยาบาลที่มีภาวะสุขภาพที่พร้อมให้การบริการและมีจิตสำนึกในการสร้างเสริมสุขภาพทั้งของตนเอง ครอบครัว และชุมชน� ผู้วิจัยจึงมีความสนใจทำการศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในด้านการเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายของอาจารย์� เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาสถาบันในด้านการสร้างบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพ อย่างเป็นระบบ ให้กับนักศึกษาพยาบาล และบุคลากรทุกระดับ เพื่อให้มีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพที่สม่ำเสมอ และต่อเนื่องที่เป็นภาพลักษณ์ในด้านการสร้างเสริมสุขภาพ และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม ต่อไป

วัตถุประสงค์ของโครงการ

ศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายของอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี

ขอบเขตของโครงการผลงาน

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. เป็นแนวทางในการจัดบรรยากาศสร้างเสริมสุขภาพในการเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย ของอาจารย์พยาบาล บุคลากร และนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี ได้อย่างเหมาะสม

2. ผลการวิจัยที่ได้ จะเป็นข้อมูลในการศึกษาวิจัยในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับความรู้และนำไปสู่การปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรด้านการสร้างเสริมสุขภาพในฐานะผู้นำการสร้างบุคลากรทางด้าน สุขภาพ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย และสามารถนำไปใช้ในประชากรกลุ่มวัยทำงานของพื้นที่อื่นที่มีลักษณะทางประชากรคล้ายคลึงกันต่อไป

3. อาจารย์พยาบาล สามารถนำผลการวิจัยไปใช้ประกอบการเรียนการสอนนักศึกษา

นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

บทคัดย่อ

�� บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในด้านการเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายของอาจารย์ �บุคลากร และนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี� ประชากรเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ คืออาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรีทั้งหมดจำนวน 291 ราย รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบ ถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตรวจสอบความถูกต้องและความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา� (content� validity) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน และหาความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถามโดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ซึ่งได้ค่าความเชื่อมั่น 0.72 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณาในการแจกแจงความถี่ หาค่า�� ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน��

ผลการวิจัยพบว่าอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาพยาบาล ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในด้านการเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มโดยรวมอยู่ในระดับน้อย ( =57.21, S.D.=3.93) โดยมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าอยู่ในระดับปานกลาง ( =37.21, S.D.=2.89) และพฤติกรรมการเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคุณค่าอยู่ในระดับน้อย ( =19.99, S.D.=1.85)� �ส่วนพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในด้านการออกกำลังกายพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง ( =9.22, S.D.=1.52) โดยส่วนใหญ่มีการออกกำลังกายน้อยกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 57.40 และส่วนใหญ่ใช้เวลาออกกำลังกาย 30 นาทีขึ้นไปต่อครั้ง คิดเป็นร้อยละ 53.30 ��โดยพบว่าก่อนการออกกำลังกายประชากรเป้าหมายไม่ได้ปฏิบัติการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและอบอุ่นร่างกายทุกครั้งคิดเป็นร้อยละ 78.70 ��และหลังการ ออกกำลังกาย ไม่ได้มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนหยุดออกกำลังกายทุกครั้งคิดเป็นร้อยละ 74.20��

จากการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยเสนอแนะให้สถาบันการศึกษา มีการกำหนดนโยบายและจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้อาจารย์พยาบาล �บุคลากร และนักศึกษาพยาบาล มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพในด้านการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เช่น จัดให้มีคณะกรรมการดูแลให้ร้านอาหารมีการจำหน่ายอาหารที่หลากหลาย และมีประโยชน์ครบห้าหมู่� สนับสนุนให้มีสถานที่และอุปกรณ์การออกกำลังกาย อีกทั้งควรประชาสัมพันธ์เชิญชวนสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เป็นแบบอย่างผู้นำสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อกำหนดรูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มอาจารย์เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนในการสร้างเสริมสุขภาพ

คำสำคัญ : พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ / การเลือกรับประทานอาหาร / การออกกำลังกาย

* พยาบาลวิชาชีพระดับ 8 วช.( ด้านการสอน ) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี� สุพรรณบุรี

ดาว์โหลดไฟล์บทคัดย่อ :


ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารระดับชาติและนานาชาติ	ปี พ.ศ	คะแนน	วันที่เผยแพร่	โหลด

การเผยแพร่บทความวิชาการ	ปี พ.ศ	คะแนน	วันที่เผยแพร่	โหลด

บูรณาการกับโครงการบริการวิชาการ ความร่วมมืองานวิจัยกับบุคคลภายนอก

ปีปฏิทิน

2549

ปีการศึกษา

2550

ปีงบประมาณ

2551

วันที่เริ่ม

1 มี.ค. 2549 วันที่แล้วเสร็จ : 1 ธ.ค. 2550

แหล่งเงินทุน

ภายใน	จำนวนเงิน 0.00 บาท
ภายนอก	จำนวนเงิน 26,800.00 บาท สบช
รวมจำนวนเงินทุน	26,800.00 บาท

ชื่อแฟ้มข้อมูล		ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด	Download
ทั้งหมด 0 รายการ